วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 11 การบำรุงรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์


การบำรุงรักษาเครืองคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
เครืองคอมพิวเตอร์เมือได้มีการใช้งานและควรมีการบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อการยืนอายุการใช้งานเครืองคอมพิวเตอร์  การบำรุงเครืองอย่างสมํ่าเสมอจะทำไห้เครืองสามารถทำงานได้ตามปกติ  แต่ในการดูแลอุปกรณ์ของเครืองคอมพิวเตอร์ในแต่ละชิ้นส่วนรนั้นผู้ดูแลบำรุ่งรักษาต้องมีความรู้เกียวกับอุปกรณ์นั้นๆ  ควรได้การศิกษาวิธีการบำรุ่งรักษาให้เข้าใจสำหรับการบำรุงรักษาในแต่ละชิ้น
ฟล็อปปี้ไดรฟ์
เป็นอุปกรณ์ทีต้องดูแลอยางสมํษ้เสมอ การทำความสะอาดอาจจะสัปดาห์ละ1ครั้งหรืออาจำเป็นตอยางน้อยควรจะเด์อนละ 1 ครั้งไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้หัวอ่านสุกปรกได้ โดยควรใช้นํ้ายาสํ้าหรับล้างดิสก์ ตามขั้นตอนในคู่มือการใช้นํ้ายาทีระบุไว้ด้วยการหยดนํ้ายาใส่หัวล้างแล้วนําสอดในดิสก์ไดรฟ์  ซิงหัวล้างจะมีลักษณะเหมือนกับขนาดของดิสก์นั้นๆ เมือเกิดความสกปรกทีหัวอ่านอาจจะทำให้การบัญทึกข้อมูลมีปัญหา หรือ บัญทึกไม่ได้เวลาไปอ่านทีเครืองอืนๆ   อาจจะทำให้มีปัญหาได้ดั้งนั้นครัวหมั่นดูแล หากอายุการใช้งานผ่านไปหลายเดือนควรได้รับการเป่าฝุ่นด้วยการถอดชิ้นสวนเครืองออกทั้งหมดแล้วทั้าการเป่าฝุนในชิ้นสวนต่างๆของเครือง
 เมนบอร์ด( Mainbord )
การทำงานของเมนบอร์ดเป็นการทำงานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นส่วนทีสำคัญเพราะเมนบอร์ดเป็นศูนย์รวมของอุปกรณ์ต่างๆในเครื่องคอมพิวเตอร์ทีติดตั้งอยู่ เช่น ชีพียู CPU หน่วยความจำรอม Rom แรม ram ส่วนประกอบอื่นๆ หากเมนบอร์ดสามารถทำงานได้ตามปกติหมายถึงของการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเป็นอันจบลงเพราะไม่สามารถใช้งาน อย่างมากก็ต้องถอดชิ้นส่วนทีพอถอดได้ แล้วนำไปติดตั้งให้กับเมนบอร์ดอื่นๆทีเข้ากันได้ดังนั้นควรมีการบำรุงรักษาอย่างดีก่อนทีจะสายเกินไป การบำรุงรักษาทีดีทีสุดคือการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเป่าฝุ่นเป็นประจำ หรืออาจมีการกันอีกชั้นหนึ่งก็คือการมีผ้าคลุมเครื่องหรือมีห้องมิดชิด การเก็บรักษาเครื่องในอุณหภูมิทีเหมาะสมยังเป็นการยืนอายุการยืดอายุการใช้งานของเมนบอร์ดด้วย
 หน่วยความจำผลกลาง( Central Processing unit)
หน่วยความจำผลกลางเป็นศูนย์กลางการประมวลทั้งหมดของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือถือว่าเป็นสมองของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเอง ประกอบด้วยหน่วยความจำหน่วยคำนวณและหน่วยควบคุมการยืนอายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น มีวิธีการทีได้ผลิตมาจากโรงงานพร้อมชีพียูหรืออาจจะซื้อเพิ่มเติมได้ไนบางรุ่นนั้นก็คือพัดลมระบายอากาศทีติดอยู่กับชีพียูบ่อยนัก ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเกิดจากความสกปรกของพัดลมทำไห้การพัดทำงานไม่ปกติทำให้ไม่ความร้อนทีเกิดจากการทำงานของชีพียู   
 ชีดีรอมไดร์ฟ CD-Rom drive)
การดูแลรักษาชีดีรอมไดร์ฟนั้นมีวิธีการใกล้เคียงกัน การดูแลรักษาชีดีรอมไดร์ฟนั้นมีวิธีการใกล้เคียงกันกับดิสก์ คือดูแลความสะอาดด้วยการเป่าฝุ่นการใช้น้ำยาแผนทำความสะอาดแล้วนำใส่ชีดีรอมไดรฟ์เพื่อเป็นการทำความสะอาดหัวอาน  การปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำเป็นการยืนอายุการใช้งานชีดีรอมไดร์ฟเป็นอย่างดี
 จอภาพ  (monitor)
จอภาพเป็นส่วนแสดงผลจากการประมวล ดั้งนั้นวิธีการบำรุงรักษาจอภาพจึงเหมือนกันกับอุปกรณ์อื่นในเครื่องคือ ป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าสู่จอภาพ ด้วยการใช้ผ้าคลุมจอภาพไว้ขณะที่ไม่มีการใช้งาน  การใช้เครื่องในห้องทีมิดชิด  และทีสำคัญในการทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ คือนำผ้าหรือโฝ่มเช็ดด้วยน้ำยาควรใช้ผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดจริงๆไม่ให้มีน้ำหยดอาจจะวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในจอภาพได้อีกวิธีหนึ่ง สามารถทำได้แต่ภายนอกเครื่องอาจจะช่วยได้ไม่มากนักคือการเป่าฝุ่น หากไม่สะดวกอาจต้องแกะฝาครอบออกและเป่าฝุ่นควรเป่าในระยะไกลเพราะอาจจะร้อนเกินไปทำให้เกิดความเสียหายกับวงจรได้
 แหล่งจ่ายไฟ ( Power Supply )
แหล่งจ่ายไฟเป็นกระแสไฟในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้กระแสดีชี CD ไม่ใช้กระแสเอชี AC ทีออกจากปลั๊ก คอมพิวเตอร์จะจัดการเปลี่ยนจากAC เป็น  AC   ก่อนสิ่งที่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องกระแสไฟไหลไม่สม่ำเสมอจะมีผลเสียต่อตัวเครื่องมาก ควรมีการติดตั้งอุปกรณ์ทีใช้ควบคุมในเรืองนี้ด้วยแหล่งจ่ายไฟเป็นส่วนทีสำคัญสำหรับระบบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์เพราะเป็นส่วนทีทำหน้าท่าแรงดันให้กับแผนวงจรต่างๆ  ภายในระบบ หากแหล่งจ่ายไฟมีคุณภาพต่ำอาจเป็นผลให้อุปกรณ์อื่นๆ เสียหายได้ เพราะปัญหาใหญ่สำหรับการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ปกตินั้นเกิดจากกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ ทำให้สัญญาณไปรบกวนอุปกรณ์อื่นๆได้วิธีการทีจะบำรุงรักษาไห้แห่ลงจ่ายไฟมีอายุยาวนานในการใช้งานคือ การมีเครื่องสำรองไฟฟ้า up เพื่อป้องกันเครื่อง
 เครื่องพิมพ์ ( Printe)
เครื่องพิมพ์ที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น แบบกระทบ(  Impact  Printer) ซึ่งจะรวมถึงแบบจุด Don matrix และแบบจาน ( Daisy wheel) นอกจากนั้นก็ยังมีแบบไม่กระทบ Non Impact  Printer ซึ่งแบ่งเป็นแบบฉีดหมึก Ink Jet และเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ( laser  Printer  )
 *เครื่องพิมพ์แบบจุด ( Dot  Matrix printer) ส่วนมากเรียกสั้นๆว่า( Do matrix )หรือdot printer หมายถึงเครื่องพิมพ์หรืออุปกรณ์แสดงผลของคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ใช้เข็มตอกลงไปลงบนกระดาษ ทำให้ผลทีออกมาดูเป็นจุดเรียงไปตามรูปสีเหลี่ยมจุดเหล่านี้จะรวมกันเป็นตัวอักษรทีเป็นรูปและขนาดทีต้องการ สำหรับเส้นโค้งนั้นเครื่องพิมพ์ชนิดนี้ทำไม่ได้ดีนัก แต่หากมีจุดเรียงกันได้ละเอียดเท่าใด เส้นโค้งก็จะดูดีขึ้นและอักษรก็จะดูสวยงามขึ้น คุณภาพของเครื่องพิมพ์นั้น จึงวัดกันเป็นจำนวนจุดต่อนิ้ว ยิ่งเครื่องพิมพ์มีคุณภาพ ก็ต้องยิ่งมีจำนวนจุดต่อนิ้วมาก
การบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์แบบ (Dot Matrix  Printer  ) มีดั้งนี้
*การทดสอบหรือการสั่งพิมพ์เครื่องพิมพ์ควรตรวจสอบการใส่ผ้าหมึก กระดาษว่าเรียบร้อยหรือไม่เพื่อเป็นการถนอมหัวเข็ม
*การใส่กระดาษควรใส่ให้ถูกวิธีเช่นการโหลดกระดาษแบบอัตโนมัติ หรือการ โหลดกระดาษโดยการกดเครื่องพิมพ์โหลดไม่ควรใช้ลูกบิดของเครื่องพิมพ์อาจจะทำให้เฟืองหรือลูกบิดชำรุดได้
*ควรใช้กระดาษที่มีคุณภาพ เช่น กระดาษต่อเนื่องหรือกระดาษถ่ายเอกสารเพราะหากเห็นกระดาษคุณภาพไม่ดีอาจจะทำให้หัวเข็มชำรุดเร็วขึ้น
*ก่อนการสั่งการเครื่องพิมพ์ทุกครั้งพิมพ์ทุกครั้งควรตรวจสอบอุปกรณ์ว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยทุกชิ้นสวนหรือไม่โดยเฉพาะฝาครอบของเครื่องส่วนมากไม่ชอบปิดอาจจะทำให้ฝุ่นละอองหรือเศษวัสดุเข้าไปติดในเครื่องพิมพ์ได้โดยง่าย
*เครื่องพิมพ์ประเภทนี้จะมีคันโยกสำหรับความหนาของกระดาษควรตรวจสอบความถูกต้องก่อนสั่งพิมพ์ทุกครั้ง
*ควรถอดชิ้นส่วนในการเป่าฝุ่นละอองบ้าง ทีสำคัญช่วงขั้นตอนการถอดชิ้นส่วนควรจำวิธีการประกอบคืนด้วย
*ฝาเครื่องควรเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งถ้าเป็นไปได้ควรทำเป็นประจำทุกวัน
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)
เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) หมายถึง เครื่องพิมพ์แบบหนึ่งที่ใช้ลำแสงเลเซอร์ในการสร้างภาพและถ่ายทอดลง สู่กระดาษด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ความเร็วของเครื่องพิมพ์เลเซอร์นั้นวัดกันเป็นหน้าต่อนาที (PPC) เช่น 10 หน้าต่อนาที เป็นต้น ส่วนคุณภาพของการพิมพ์นั้นวัดเป็นจุดต่อนิ้ว (DPI) เช่น 600 จุดต่อ 1 นิ้ว ยิ่งมีจุดมาก แสดงว่ามีความละเอียดมาก ภาพจะชมชัดกว่าภาพที่มีจุดน้อยหรือมีความละเอียดน้อย
การบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์แบบ Laser Printer มีดังนี้
*กระดาษที่นำมาใช้กับเครื่องพิมพ์ควรเป็นกระดาษถ่ายเอกสารหรือกระดาษสำหรับเครื่องพิมพ์โดยตรง
*หากมีกระดาษติดในเครื่องควรนำออกมาอย่างถูกวิธีตามขั้นตอนการเปิดเครื่องส่วนมากจะต้องเปิดฝาครอบยกขึ้นแล้วนำผ้าหมึกถอดออกจากเครื่องและนำกระดาษออก ไม่ควรฝืนหากนำกระดาษออกได้ ควรให้ผู้รู้เป็นคนดำเนินการแทน
*ขณะเครื่องพิมพ์กำลังทำงานหรือกำลังพิมพ์ไม่ควรปิดเครื่องกะทันหันอาจทำให้กระดาษติดได้
*การนำกระดาษใส่ในถาดครั้งละหลายแผ่นควรกรีดกระดาษก่อนเพื่อไม่ให้กระดาษติดเวลาสั่งพิมพ์
*ฝาเครื่องควรเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Inkjet Printer)
เครื่องพิมพ์นี้เป็นแบบพ่นหมึกจึงมีวิธีบำรุงรักษาดังนี้
*ควรเลือกกระดาษที่มีคุณภาพดีสำหรับใช้กับเครื่องพิมพ์ หากกระดาษบางเกินไปอาจจะมีปัญหาในเรื่องของการผิดกระดาษหรืออาจจะทำให้เฟืองผิดกระดาษชำรุดได้
*การนำกระดาษใส่ถาดควรกรีดกระดาษก่อนทุกครั้งเพื่อไม่ให้กระดาษติดเวลาผิดเข้าเครื่องอาจทำให้เฟืองชำรุดได้
*ควรถอดชิ้นส่วนในการเป่าฝุ่นละอองบ้าง ที่สำคัญช่วงขั้นตอนการถอดชิ้นส่วนควรจำวิธีการประกอบคืนด้วย
*ฝาเครื่องควรเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ถ้าเป็นไปได้ควรทำเป็นประจำทุกวัน
 สิ่งที่เป็นอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์มีดังนี้
1. กระแสไฟฟ้า หากเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องหรือดับกะทันหันอาจเป็นเหตุให้เครื่องคอมพิวเตอร์ชำรุดได้ ควรมีแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้า (UPS) ที่จะทำงานทันทีที่ไฟดับ โดยปกติแบตเตอรี่ขนาดนี้นั้นมีไว้ใช้พอที่จะสั่งให้เก็บงาน (Save) ที่ทำอยู่เท่านั้น ไม่ได้มีให้ใช้ต่อไปเมื่อบันทึกลงเก็บเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรีบปิดเครื่อง
2. ความร้อน หากคอมพิวเตอร์มีความร้อนมากอาจทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องเสื่อมหรือชำรุดได้ โดยปกติซีพียูได้ติดตั้งพัดลมระบายอากาศให้กับซีพียูมาด้วยเพื่อเป็นการระบายความร้อนในระบบด้วย หากเป็นการถนอมและรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ควรใช้ได้ควรปฏิบัติการอยู่ในสถานทีมีอากาศระบายอย่างดีสุดควรเป็นห้องปรับอากาศเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์
3. ฝุ่นละออง หากการปฏิบัติงานในบริเวณทีมีฝุ่นละอองมากควรได้มีการป้องกัน เช่น อาจจะทำให้ห้องมิดชิด ไม่ควรกวาดพื้นให้ฝุ่นละอองคลุ้งกระจายในห้องปฏิบัติการอาจทำให้ฝุ่นละอองไปสะสมภายในอุปกรณ์ เช่นการ์ดและสล๊อตต่างๆซึ่งจะเป็นสาเหตุให้การทำงานผิดพลาดได้
4. การปิดเครื่องอย่างไม่ถูกวิธีหรือการเปิดเครื่องบ่อยๆ  จะทำให้เครื่องกระชากอาจเป็นเหตุให้เครื่องเกิดข้อผิดพลาดได้
5. น้ำ ไม่ควรให้น้ำหกใส่อุปกรณ์ใดๆ เพราะจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ ยิ่งขณะกำลังปฏิบัติงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ยิ่งต้องหลีกเหลี่ยงการใช้น้ำเพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ทำให้เกิดอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์และผู้ปฏิบัติการ
 ปัญหาของเครื่องคอมพิวเตอร์
ปัญหาของเครื่องคอมพิวเตอร์แยกออกเป็น 2 ด้านดั้งนี้
1. ด้านฮาร์ดแวร์ ( Hard ware ) ข้อผิดพลาดทางด้านฮาร์ดแวร์ส่วนกายภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์แบ่ง 3 เป็นส่วนใหญ่ๆคือ
1.หน่วยรับข้อมูล เช่น แป้นพิมพ์ หน่วยบันทึก
2.หน่วยความจำเช่น ซิป (chips) หรือหน่วยความ   เช่น จานบันทึก
3.หน่วยแสดงผล เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ ข้อผิดพลาดทางด้านฮาร์ดแวร์จึงอาจเกิดจากอุปกรณ์ใดก็ได้ เช่นนากพิมพ์ไม่ปฏิบัติงานตามปกติควรมีการตรวจสอบว่าแป้นพิมพ์หลุดจากช่องต่อหรือหลวมหรือไม่ หากยังไม่ปกติ ลองนำเครื่องคอมพิมพ์จากเครื่องอื่นมาทดสอบปฏิบัติก็จะได้ทราบผลการทำงานหากเป็นการปฏิบัติงานของจอภาพผิดพลาดเช่นจอภาพไม่ติดขณะปฏิบัติอาจจะเกิดจากจอภาพหรือการ์ดจอก็ได้อย่างแรกลองเปลี่ยนเปลี่ยนจอภาพใหม่ทีใช้งานได้ปกติก่อนหากติดแสดงว่าจอภาพ หากยังไม่สามารถทำงานได้ให้ลองเปลี่ยนการ์ดจอเพื่อทดสอบ  หลักเดียวกันนี้สามารถทดสอบกับอุปกรณ์ได้ทุกอุปกรณ์ได้ทุกอุปกรณ์เป็นเพียงหลักการเบื้องต้นเท่านั้น
 2.  ด้านซอฟต์แวร์   (Soft ware) เป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับโปรแกรมเครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรมที่มีผลต่อการใช้งานมากก็คือเกิดจากซอฟต์แวร์ระบบ   ( Systems Software) ทนทีเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์จะอ่านและปฏิบัติการตามโปรแกรมระบบนี้ก่อน โปรแกรมระบบประกอบด้วยโปรแกรมต่างๆ หลายโปรแกรมเช่น loaderหรือตัวบรรจุ มีหน้าทีบรรจุข้อมูลทีส่งเข้าไปเก็บในหน่วยความจำตามเลขทีอยู่ (Address) ต่างๆ ( Operating  System ) หรือระบบปฏิบัติการมีหน้าที่เป็นเสมือนแม่บ้าน กล่าวคือ มีหน้าทีคอยควบคุมดูแลการทำงานของหน่วยต่างๆของคอมพิวเตอร์ชิ่งหากเกิดข้อผิดพลาด เช่น ไม่สามารถบูติเครื่องทำงานได้แต่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ยังปกติ การปฏิบัติการก็ควรได้ดำเนินการติดตั้งโปรแกรมระบบปฏิบัติการใหม่จนกว่าจะใช้งานได้หากฮาร์ดแวร์ปกติแต่ไมสามารถใช้งานได้ควรพิจารณาถึงโปรแกรมไดร์ฟเวอร์เพื่อนำมาติดตั้งให้ฮารแวร์ใช้งานได้ตามปกติ
ส่วนชุดคำสั่งเบ็ดเสร็จ หมายถึง โปรแกรมที่ผู้ผลิตออกมาเป็นชุดเดียวกัน สามารถทำงานได้หลายอย่างโดยเฉพาะงานสำนักงานทั่วไป ทีใช้กันมากได้แก่ โปรแกรมประมวลผลคำ ตารางงานฐานข้อมูลละการสื่อสารเป็นต้น หากเกิดข้อผิดพลาดกับโปรแกรมให้ทำการติดตั้งโปรแกรมใหม่มีผลต่อข้อมูลทีได้บันทึกไว้แล้ว
การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์
การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องปัญหาทำงานไปได้สักระยะหนึ่งอาจเต็มไปด้วยขยะทั้งฮาร์ดิสก์ การดูแลรักษาเพื่อให้เครื่องใช้ได้นานๆ หรือทำให้เครื่องทำเครื่องทำงานได้เร็วขึ้นมีด้วยกันหลายวิธีดังนี้
  • โปรแกรม (Disk cleanup)
โปรแกรม (  Disk cleanup)สำหรับลบไฟล์ทีไม่จำเป็นออกจากฮาร์ดดิสก์ เพื่อให้การทำงานของเรื่องเร็วขึ้นเปรียบได้กับใช้สำหรับการทำความสะอาดฮาร์ดดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์มีเนื้อทีเหลือใช้งานเพิ่มมากขึ้น ดั้งนั้นควรทีจะทำการส่งโปรแกรม(Disk cleanup) เป็นประจำประมารสัปดาห์ละครั้ง
 ขั้นต้อนการใช้โปรแกรม(Disk cleanup)
1.คลิกปุ่ม (start Menu ) เลือก (programs) และเลือกaccessories)เลือกที(system  tools) และเลือก(Disk cleanup)ตามรูปตัวอย่าง
2.จากผลปฏิบัติในข้อที 1 จะได้ผลลัพธ์ดังรูปให้เลือกไดรฟ์ฮาร์ดิสก์ทีต้องการทำการdisk cleanupก่อนและปุ่มok
3.จากผลในข้อที 2 จะได้ผลลัพธ์ดังรูปให้ไม่จำเป็นออกจากนั้นคลิกปุ่ม ok จะมีไดอะล็อกบอกซ์มีทางเลือก yes กับ noเพื่อยืนยันการลบไฟล์คลิกปุ่ม yes
 การ Defrag ฮาร์ดดิสก์
เป็นการปฏิบัติเพื่อการเพิ่มความเร็วให้กับการทำงานของระบบ การทำDefrag หรือ Disk defragmenter ก็คือการทำจัดเรียงข้อมูลของไฟล์ต่างๆ ทีเก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ให้มีความต่อเนื่องหรือเรียงเป็นระบบต่อๆ กัน ประโยชน์ที่จะได้รับคือ ความเร็วในการอ่านข้อมูลทีมีการเก็บข้อมูลแบบกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป  เมื่อต้องการอ่านข้อมูลของไฟล์นั้น หัวอ่านของฮาร์ดดิสก์ก็จะต้องมีการเคลื่อนย้ายไปมาเพื่อทำการอ่านข้อมูลจบครบ หากเรามีการทำ defragฮาร์ดดิสก์ จะทำให้การเก็บข้อมูลมีความต่อเนืองกันมากขึ้น เมื่อต้องการอ่านข้อมูลนั้น หัวอ่านของฮารดดิสก์จะสามมารถอ่านได้ โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายหัวอ่านหรือมากเกินไป ทำให้ใช้เวลาในการอ่านเร็วขึ้น
ข้อแนะนำก่อนใช้โปรแกรม Disk defragmenter
เพื่อให้การใช้งาน (Disk Defragmenter ) มีประสิทธิภาพมากทีสุดก่อนการเรียกใช้โปรแกรมDisk Defragmenterควรจะเรียกโปรแกรมก่อนเพื่อการจัดเรียงลำดับของไฟล์ทีใช้งานบ่อยๆ ให้มาอยู่ในลำดับต้นๆ ของฮาร์ดดิสก์โดยโปรแกรมจะทำหน้าทีทีจัดเก็บข้อมูลการใช้งานไฟล์ทีเรียกการใช้บ่อยๆไว้ และนำมาจัดการเรียกบ่อยๆไว้และนำมาจัดการเรียงลำดับให้อยู่ในส่วนแรกๆของฮาร์ดดิสก์ดั้งนั้นการทีเรียกโปรแกรมก่อน Disk defragmenter จะเป็นการเพิ่มความเร็วการอ่านข้อมูลได้อีกทางหนึ่งโปรแกรม จะอยู่ใน  Folder  c:windows/systems/waling.exeให้ดับเบิลคลิกที่ my computer จากนั้นดับเบิลคลิกทีไฟล์waling.exe
โปรแกรมจะเริมต้องการ Tuning up application เมื่อเสร็จแล้วจึงจะทำการ  Defrag  ต่อไปนอกจากนี้สิ่งทีสำคัญมากๆในการทำ Disk Defrag คือต้องปิดโปรแกรมต่างๆที่ทำงานอยู่ในขณะนั้นให้หมดก่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น